วันอังคารที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

วิธีการป้องกันการถูกขโมยข้อมูลส่วนตัวบนเน็ต ไปใช้

ไม่ใช่เรื่องใหม่เลยที่การหลอกขโมยข้อมูลต่าง ๆ  ของผู้ใช้อินเตอร์เน็ตไปใช้ประโยชน์ต่าง ๆ
ของพวกมิจฉาชีพ แต่ก็ยังมีผู้ตกเป็นเหยื่อของอาชญกร อินเตอร์เน็ตพวกนี้อยู่เรื่อยๆ
ล่าสุดกรณีของ “เชอรรี่ หนูผี” ที่ถูกขโยข้อมูล อีเมล์ ไปใช้โดยการหลอก ให้กรอกข้อมูลต่าง ๆ
ผ่านทางอีเมล์ ก็เป็นอีกกรณีหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้งาน อินเตอร์เน็ตทุกวันนี้
ต้องมีความระมัดระวังตัวกันมากขึ้น และบทความด้านล่างนี้
ทางกอง บก.ของ ARIP.CO.TH ได้เขียนขึ้นเพื่อให้เป็นแนวทางให้ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตนำไปปฏิบัติ
เพื่อป้องกันตนเองจากการถูกขโมยข้อมูล  เห็นว่ามีประโยชน์ดีเลยหยิบมาให้ได้อ่านและศึกษากัน
เพื่อป้องกันตัวเอง

1. การอนุญาตให้แชร์ข้อมูลส่วนตัว แนะนำให้ลงทะเบียนในเว็บไซต์เฉพาะช่องที่ทางเว็บไซต์
ต้องการข้อมูลจริงๆ ส่วนช่องอื่นๆ พิจารณาดูตามความเหมาะสม จากนั้นกวาดสายตาหาเช็คบ๊อกซ์
ที่ระบุว่า มีการแชร์ข้อมูลส่วนตัวของคุณ ทางดีควรปฏิเสธการแชร์ข้อมูลจะดีกว่า
ด้วยการเลือก หรือไม่เลือกเช็คบ๊อกซ์นั้น
(อ่านเงื่อนไขก่อนว่า การเลือก หรือไม่เลือกนั้นหมายความว่าอย่างไร?)

2. ธุรกรรมออนไลน์ต้องมีกุญแจล็อค ทุกครั้งทีทำธุรกรรม ออนไลน์ ให้สังเกตสัญลักษณ์
ที่เป็นรูปแม่กุญแจล็อค (Lock) ทีบริเวณแถบสถานะ (Status bar) ที่อยู่ด้านล่างของบราวเซอร์
และ https:// ที่ปรากฎเป็นคำแรกในช่องแอดเดรสบาร์ (Address Bar) ซึ่งการปรากฎของข้อมูล
ทั้งสองอย่างนี้จะทำให้คุณมั่นใจได้ว่า ข้อมูลของคุณได้รับการคุ้มครองให้ปลอดภัย
3. ระวังฟิชชิ่ง (Phising Scam) หากได้รับอีเมล์แจ้ง ปัญหาเกียวกับบัญชี
(username, password หรือหมายเลขบัญขีธนาคาร) การใช้บริการของธนาคารออนไลน์
หรือสถาบันการเงินออนไลน์ต่างๆ อย่าคลิกลิงค์ที่ปรากฎในอีเมล์ หรือให้ข้อมูลกลับไป
(เช่นกรณีทีเกิดกับคุณ “เชอรี่ ผุงประเสิร์ฐ” ซึ่งหากอีเมล์นั้นใช้ทำธุรกรรมออนไลน์ด้วย
อาจจะยิ่งอันตราย เพราะผู้ไม่หวังดีอาจใช้อีเมล์นี้ในการร้องขอพาสเวิร์ดอัตโนมัติ
หรืออ้างว่าลืมจากทางธนาคารได้) ควรจะคลิกเข้าไปในเว็บไซต์ธนาคาร
เพื่อตรวจสอบว่า แอคเคาต์ของคุณมีปัญหาจริง หรือไม่? ซึงหากพบว่า ปกติดี
ให้คุณรีบแจ้งทางธนาคารให้ทราบว่า มีการโกงในลักษณะนี้
เพื่อจะได้ไม่เกิดความเสียหายกับผู้อื่นด้วย อ้อ…อย่าตกม้าตาย
ด้วยการลืม Log out (Sign out) ทุกครั้งที่ใช้อีเมล์ หรือบริการเหล่านี้ด้วยนะครับ




4. ใช้บราวเซอร์ทีมีระบบการป้องกันฟิชชิ่ง บราวเซอร์ IE, Firefox
จะมีระบบตรวจจับเว็บไซต์ปลอม โดยจะแสดงผลเน้นชื่อโดเมนของเว็บไซต์ให้เห็นเด่นชัด
ดังนั้นทุกครั้งก่อนกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มออนไลน์ใดๆ โดยเฉพาะบนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
หรือสถาบันการเงินต่างๆ ควรสังเกตชื่อโดเมนในช่อง Address Bar ทุกครั้ง

5. เสิร์ชอย่างปลอดภัย เพื่อความปลอดภัยในการค้นหาข้อ มูลบนเว็บไซต์ต่างๆ
แนะนำให้ติดตั้งโปรแกรมแอนตี้ไวรัส หรือโปรแกรมเสริมการทำงานที่มีระบบตรวจสอบ
ความปลอดภยของลิงค์ต่างๆ ในหน้าผลลัพธ์การค้นของเสิร์ชเอ็นจิ้นด้วย
โดยหากโปรแกรมเหล่านี้พบว่า ลิงค์ที่ค้นไม่ได้ไม่ปลอดภัยก็จะแสดงไอคอนเตือนให้ทราบทันที
ซึ่งหากไม่มี คุณผู้อ่านก็อาจจะคลิกเข้าไปยังเว็บไซต์อันตรายที่หลอกขอข้อมูลไปจนถึงแฮค
เข้าไปในระบบผ่านช่องโหว่ของบราวเซอร์

6. ดูแลระบบคอมพิวเตอร์ให้ปลอดภัยอยู่เสมอ
โน้ต บุ๊กคอมพิวเตอร์ของคุณควรได้รับการตั้งพาสเวิร์ดทีแข็งแรง เพื่อป้องกันการแอบใช้
หรือเจาะเข้าไปนำข้อมูลของคุณออกมาโดยง่าย ตลอดจนอัพเดตโปรแกรมระบบรักษาความปลอดภัย รวมถึงระบบปฏิบัติการอย่างสม่ำเสมอ การดูแลระบบให้แข็งแรงจะช่วยป้องกันการบุกรุกเข้าไปควบคุม หรือขโมยข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ของคุณขณะออนไลน์ได้เป็นอย่างดี
หากเป็นไปได้ ไม่ควรให้ยืมคอมพิวเตอร์กับคนแปลกหน้า
และหากส่งซ่อมควรถอดฮาร์ดดิสก์ออกก่อน
(หากฮาร์ดดิสก์ไม่เสีย)
หรือสำรองข้อมูลสำคัญออกมา แล้วลบข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ออกไป

7. คิดก่อนตัดสินใจ โดยเฉพาะเรื่องทีเกียวข้องกับข้อมูลส่วนตัว ดังนั้นกฎเหล็กข้อหนึงในการป้องกันการขโมย และแอบอ้างข้อมูลส่วนตัวบนออนไลน์ไปใช้ก็คือ อย่าเชื่อทุกสิ่งที่เข้ามาในอีเมล์ ลบข้อมูลสำคัญๆ ออกไปจากเครื่องก่อนซ่อม หรือขายออกไป เพราะขโมยไม่ได้มีแค่ในโลกออนไลน์เท่านั้น
ความจริงยังมีวิธีป้องกันตัวเองอีกมากมาย แต่เชื่อว่า 7 ข้อที่นำเสนอในข่าวนี้
น่าจะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านหลายๆ ท่านพอสมควร สำหรับคุณผู้อ่านท่านใด
ทีมีวิธีการป้องกันดีๆ และอยากแชร์ให้ผู้อ่านท่านอื่นๆ ก็คอมเมนต์กันเข้ามาได้เลย
สังคมออนไลน์จะได้น่าอยู่ยิ่งขึ้น ด้วยความปรารถนาดีที่มีต่อผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน

ขอบคุณบทความดี ๆ จาก http://www.arip.co.th

จัดบ้านเสริมราศีคนปีระกา

บ้านของคนปีระกา
เพื่อความเป็นสิริมงคล
บ้านของคนปีระกาต้องสวย สะอาด สดใส และดูใหม่อยู่เสมอ
สิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้าน ควรจัดให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
รั้วบ้านและอาคารภายนอกบ้านควรทาสีใหม่ทุกๆ
3 ปี ภายในบริเวณบ้าน
ห้ามมีสิ่งของแตกหัก ชำรุด เสียหาย ใบไม้แห้ง ต้นไม้หรือกิ่งไม้ที่เหี่ยวเฉาโรยรา
โดยเด็ดขาด

รอยร้าวบนผนัง หากพบเจอต้องรีบแก้ไขในทันที
หลอดไฟ กลอน กุญแจ ประตู หน้าต่าง
ต้องพร้อมใช้งานอยู่เสมอ






จัดบ้านเสริมราศีคนปีจอ


บ้านของคนปีจอ 

เพื่อความมั่งมีศรีสุข บ้านของคนปีจอ ควรจะมีสัตว์เลี้ยง  

โดยเฉพาะสุนัข ซึ่งถือว่าเป็นสัตว์เลี้ยงนำโชคของคนปีจอ เพราะความซื่อสัตย์และแสนรู้ของสุนัข 
จะช่วยให้คนปีจออารมณ์ดี ร่าเริงแจ่มใส สมองปลอดโปร่ง ไม่เครียด 
ดังนั้นไม่ว่าจะคิดหรือทำอะไรก็ล้วนแต่โชคดีมีความสำเร็จ สุนัขที่เลี้ยงไว้ไม่ควรเลี้ยงตัวเดียว 
ควรเลี้ยงตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป แต่ก็อย่าให้มากเกิน ควรให้เหมาะสมกับบริเวณบ้านและกำลังในการดูแลเอาใจใส่

วันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

จัดบ้านเสริมราศีคนปีกุน

บ้านของคนปีกุน
เพื่อความมั่งคั่งร่ำรวย บ้านของคนปีกุน ต้องมีห้องครัวที่กว้างขวาง สะอาด สะดวก สบาย
มีอุปกรณ์ในการทำครัวครบครัน เพราะการเข้าครัวทำอาหารของคนปีกุน ถือเป็นเรื่องมงคล
นำมาซึ่งโชคลาภ ความสำเร็จ และความร่ำรวย
และถ้ามีตุ๊กตาเซรามิครูปหมูสีขาวหรือสีชมพู สัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์
วางไว้ในห้องรับแขกหรือห้องรับประทานอาหารด้วย จะยิ่งถูกโฉลก โชคดี เฮง เฮง เฮง เพิ่มมากขึ้น


วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

จัดบ้านเสริมราศีคนปีขาล

บ้านคนปีขาล

เพื่อความเจริญรุ่งเรือง เฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านของคนปีขาล ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะ เก้าอี้ ตู้ เตียง ควรมีขนาดใหญ่กว่าปกติ
หน้าบ้านควรมีต้นไม้ใหญ่ หรือ สัญลักษณ์ที่ใหญ่โตโดดเด่น อาทิ มีประตูหน้าบ้านบานใหญ่ มีโอ่งน้ำขนาดใหญ่
มีบ่อน้ำขนาดใหญ่ เป็นต้น




ในห้องรับแขกควรมีรูปภาพพระอาทิตย์ขึ้นประดับไว้ จะช่วยเพิ่มพลังอำนาจและบารมีให้มีมากขึ้นกว่าเดิม

จัดบ้านเสริมราศีคนปีฉลู

บ้านคนปีฉลู
เพื่อ ความมั่งคั่งร่ำรวย บ้านของคนปีฉลู ไม่ควรมีอะไรที่เป็นทรงกลม
ยกเว้นโต๊ะอาหาร
ที่เป็นโต๊ะกลมได้
นอกนั้น
แล้วสิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้าน ควรเป็นเหลี่ยมเป็นมุมทั้งหมด ตัวอย่างเช่น
นาฬิการทรง
8 เหลี่ยม

  อ่างบัวทรง 5 เหลี่ยม กระถางต้นไม้ทรง 4 เหลี่ยม รวมไปถึงลวดลายของเหล็กดัด วอลล์เปเปอร์ ก็ควรเป็นรูปทรงเหลี่ยม
หลีกเลี่ยงรูปวงกลมและรูปโค้งมนต่างๆ

วันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

จัดบ้านเสริมราศีคนปีชวด

ปีนักษัตร (ออกเสียง นัก-สัด) เป็นปีตามปฏิทินสุริยคติไทย โดยการนับรอบละ 12 ปี อันเป็นคติการนับปีที่นิยมใช้กันแพร่หลายในภูมิภาคเอเชีย ทั้งชาวไทย จีน และเวียดนาม เป็นต้น ปีนักษัตร 12 ปีนั้น มีดังนี้ชวด ฉลู ขาล เถาะ มะโรง มะเส็ง มะเมีย มะแม วอก ระกา จอ และ กุน โดยเริ่มต้นนับที่ปีชวด





















บ้านคนปีชวด
เพื่อความมั่งมีศรีสุข บ้านของคนปีชวด
ควรมีเครื่องดนตรีอย่างน้อย 1 ชิ้น อยู่ในบ้าน เช่น ขลุ่ย เมาท์ออร์แกน เปียโน กีตาร์ ฯลฯ
แม้จะเล่นไม่เป็น เพียงมีไว้ประดับบ้านก็ถือว่าถูกโฉลก จะนำโชคดีมาสู่ในบ้าน
แต่ถ้าเป็นเครื่องดนตรีที่สมาชิกในบ้าสามารถเล่นได้จริงๆ
หรือมีการเล่นร่วมดนตรีด้วยกันภายในครอบครัว เสียงดนตรีที่ดังขึ้นดุจดั่งเสียงสวรรค์
ที่เรียกทรัพย์นับล้านเข้าสู่บ้านของคนเกิดปีชวด

วิธีกำจัดสิวเสี้ยนด้วยตัวเอง

สิวเสี้ยนเป็นปัญหาที่แก้ไขได้ยากจริงๆ
แต่ว่ามีวิธีการกำจัดสิวแบบง่ายๆด้วยตัวเองมาฝากค่ะ


- มาส์กข้าวโอ๊ตกับกุหลาบ ส่วนผสมนี้จะช่วยกำจัดสิวหัวดำที่มีอยู่แล้ว
และป้องการเกิดขึ้นใหม่อีก วิธีการคือผสมข้าวโอ๊ตบดละเอียดกับน้ำกุหลาบ
ให้เป็นส่วนผสมข้นๆทาส่วนผสมลงบนหน้าบริเวณที่เป็นสิวหัวดำทิ้งไว้ 15 นาที
ก่อนล้างออกด้วยน้ำเย็นซึ่งจะช่วยปิดรูขุมขนที่เพิ่งทำความสะอาดมาใหม่ๆ
ป้องกันการเกิดสิวหัวดำต่อไป
- มันฝรั่ง มันฝรั่งดิบ สับละเอียดสามารถใช้รักษาปัญหาผิวได้หลายอย่างรวมทั้งสิวหัวดำ
โดยพอกมันฝรั่งลงบนผิวที่เป็นปัญหาโดยตรง ทิ้งไว้สักครู่แล้วล้างออก ล้างซ้ำด้วยน้ำสะอาด

เพียงเท่านี้ก็สามารถขจัดปัญหาสิวเสี้ยนออกไปได้แล้ว …
ที่มาจาก นสพ. เดลินิวส์

วันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

การลดรอยบวมจากถุงใต้ตา





                           วิธีที่ 2

                       เตรียมอุปกรณ์        
                    สำลี, น้ำนมสดแช่เย็น

วิธีทำ
จุ่มสำลีในน้ำนมเย็นๆ
ประคบบริเวณเปลือกตา 5-10 นาที
ไขมันในน้ำนมจะช่วยเสริมสร้าง
มอยส์เจอไรเซอร์และความชุ่มชื่น
ให้ผิวที่บอบบาง
บริเวณรอบดวงตาได้




วิธีที่ 3
เตรียมอุปกรณ์          มันฝรั่งสด, น้ำนมสดแช่เย็น

วิธีทำ
ฝานมันฝรั่งเป็นชิ้นบางๆ
นำไปแช่น้ำนมเย็นๆ สักครู่
ก่อนที่จะนำมาประคบลงบนเปลือกตา
ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที

วิธีที่ 4
เตรียมอุปกรณ์          น้ำชาเขียว, สำลี
วิธีทำ
ต้มชาเขียวให้เดือด นำไปแช่ตู้เย็นจนเย็นจัด แล้วใช้สำลีชุบน้ำชาเขียวให้เปียกชุ่ม

นำไปประคบบริเวณเปลือกตา ทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง

วิธีแก้ผิวไหม้เพราะแสงแดด

วิธีแก้ผิวไหม้เพราะแสงแดด
มีหลายวิธีในการใช้ในการรักษาผิวเมื่อเราถูกแสงแดดเผาผิวหน้า




วิธีที่ 1
ล้างหน้าให้สะอาด นำแตงกวาสดปอกเปลือกผ่าซึก ถูเบาๆ ไปมาตรงบริเวณที่ผิวไหม้โดนแสงแดดเผา
โดยทำวันละ 3-4 ครั้ง อาการแสบร้อนจะทุเลาและรอยไหม้จะจางหายไป

วิธีที่ 2
ผสมน้ำส้มสายชู กับน้ำธรรมดาในอัตราส่วนเท่าๆ กัน นำสำลีชุบแล้วทาบริเวณที่ผิวไหม้แดด
วันละ 3 ครั้ง

วิธีที่ 3
นำโยเกิร์ตรสธรรมชาติ ไปแช่เย็นประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วนำมาทาให้ทั่วหน้า
รอจนแห้งแล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น ความเย็นของโยเกิร์ตจะทำให้ลดอาการปวดแสบร้อน
จากแสงแดดได้ และช่วยไม่ให้ผิวลอกเป็นแผ่นๆ

วิธีที่ 4
การป้องกันผิวก่อนการออกไปถูกแสงแดด โดยการทาโลชั่นกันแดดและหลังจากที่
โดนแดดก็ให้ใช้โลชั่น after sun ที่มีส่วนผสมของว่างหางจระเข้ จะช่วยปกป้องผิวได้เป็นอย่างดี

หลังจากที่เราถูกแดดเผาควรรีบดูแลรักษา เพราะสิ่งที่ตามมาคือผิวไหม้เกรียมผิวลอก
ถ้าเราได้ดูแลรักษาก่อนที่ผิวอักเสบ ก็จะทุเลาอาการปวดแสบร้อนเพราะแสงแดดไปได้


วันเสาร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

การดูแลส้นเท้าให้ขาวและนุ่ม


การดูแลส้นเท้าให้ขาวสะอาดและนุ่มนวล มีขั้นตอนคือ

        เตรียมน้ำร้อนใส่อ่าง กะความร้อนให้น้ำอุ่นจัดพอที่จะทนได้
เอาเท้าลงไปแช่ไว้ประมาณ 5 นาที แล้วเปลี่ยนไปแช่ในอ่างน้ำเย็นอีกประมาณ 5 นาที
ทำสลับกัน 4-5 ครั้ง

        ส้นเท้าจะนุ่มทำให้ง่ายต่อการขัดผิวที่แตกออกไป และให้ใช้เปลือกมะนาวหรือหินขัด
ผิวที่แตกออกไป  ล้างออกด้วยน้ำสะอาด แล้วชะโลมด้วยโลชั่นที่ส้นเท้า

TIP : * ควรใช่ถุงเท้าก่อนเข้านอนทุกคืน เพื่อรักษาความชุ่มชื่นของเท้าไว้

วันศุกร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

น้ำทับทิมบำรุงหัวใจ


ในวงการแพทย์และนักโภชนาการยกย่องทับทิมเป็น "สุดยอดผลไม้" เพราะเปี่ยมคุณค่าอาหาร
การรับประทานผลทับทิมเป็นประจำจะทำให้ไม่อ้วน แถมลดอัตราการเสี่ยงต่อโรคหัวใจคุกคาม
สำหรับสุภาพบุรุษยังช่วยป้องกันโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้อีกต่างหาก
น้ำทับทิมมีวิตามินซีสูงและมีสารต้านอนุมูลอิสระ ส่วนเมล็ดจะมีรสฝาด แต่มีประโยชน์
เพราะเป็นไฟเบอร์อย่างดี

การทำน้ำทับทิม ทำได้โดยการ นำทับทิมที่แกะเมล็ดแล้วมาใส่ในผ้าขาวบาง
แล้วบิดผ้าขาวบางเป็นลูกกลมๆ ใช้นิ้วมือบีบน้ำออกจากเมล็ดจนหมด
แล้วนำไปดื่มทันที

Tip: การคั้นน้ำทับทิม ด้วยผ้าขาวบางจะช่วยให้รสชาติที่ได้ไม่ฝาดเหมือนคั้นด้วยเครื่อง

วิธีทำน้ำทับทิมผสมโซดา

ส่วนผสม
- น้ำทับทิมคั้นสด                              1      ถ้วย
- น้ำตาลทราย                                  1      ถ้วย
- น้ำโซดา                                      
- มะนาวแต่งรส
- เกลือนิดหน่อย

วิธีทำ
เคี่ยวน้ำทับทิมกับน้ำตาลทรายด้วยอัตราส่วน 1:1 พอเริ่มข้นก็พักให้เย็น ผสมกับน้ำโซดา
มากน้อยตามความต้องการ ใส่เกลือนิดหน่อย และถ้าต้องการให้เปรี้ยวก็ให้เติมน้ำมะนาว
ลงไปเล็กน้อย แล้วคนให้เข้ากัน จัดใส่แก้วที่มีน้ำแข็ง ดื่มได้ทันที

วิธีกำจัดความเมื่อยเท้า


เท้าคืออวัยวะที่แบกรับน้ำหนักของร่างกายตลอดทั้งวัน จึงไม่น่าแปลกใจหากวันไหนที่ต้องยืน
หรือเดินเป็นเวลานานๆ จะเกิดอาการปวดเมื่อยตามมา โดยเฉพาะผู้หญิงทำงานที่ต้องใส่ส้นสูง
ซึ่งไม่เป็นผลดีกับสุขภาพ แต่ต้องทนเพื่อความสวยงาม



ดังนั้นวิธีการกำจัดความเมื่อยเท้าก็คือ การแช่เท้าในน้ำอุ่นที่ผสมน้ำมันหอมสัก 10 นาที
นวดบริเวณส้นเท้าด้วยโลชั่น




จากนั้นยื่นเขย่งเท้าขึ้น - ลง สัก 10-15 ครั้ง จะช่วยคลายความเมื่อยล้า
และจะทำให้เท้าดูสะอาดและนุ่มขึ้นด้วย

TIP..ในการใช้น้ำหอมสร้างเสน่ห์

ในการใช้น้ำหอมนั้น มีหลายสิ่งที่จำเป็น ที่ต้องรู้เพื่อให้น้ำหอมเสริมสร้างเสน่ห์ยิ่งขึ้น

สิ่งที่ควรทำในการใช้น้ำหอมคือ
  
      

- ควรฉีดน้ำหอมบริเวณที่มีผิวแห้ง เพราะความหอมจะติดทนนานกว่า

- ควรเลือกกลิ่นน้ำหอมที่เบาสบายในหน้าร้อน และเลือกกลิ่นหอมอบอวลในหน้าหนาว
  
- ก่อนตัดสินใจซื้อน้ำหอม ควรฉีดน้ำหอมทิ้งไว้ 10 นาที แล้วสูดดมกลิ่นนั้น อีกครั้ง

- ควรซื้อน้ำหอมในตอนเย็น เพราะจะทำให้รู้กลิ่นที่แท้จริง เมื่อกลิ่นของน้ำหอมผสมกับผิวกาย

- ควรเลือกกลิ่นที่ทำให้รู้สึกสดชื่นและมั่นใจ
                                            
- ควรฉีดน้ำหอมหลังอาบน้ำ เพราะรูขุมขนจะเปิดซึมซาบกลิ่นน้ำหอมได้ดี



ข้อควรระวังในการใช้น้ำหอม

- ไม่ควรฉีดน้ำหอมบริเวณเดียวกับที่ใช้ยาดับกลิ่นกาย
- ไม่ควรฉีดน้ำหอมบนเครื่องประดับมุกและเพชรพลอย
   เพราะแอลกอฮอล์ที่ผสมอยู่ในน้ำหอมอาจทำให้เครื่องประดับเป็นสีเหลือง และขุ่นมัวได้
- ไม่ควรสูดกลิ่นน้ำหอมเกิน 3 กลิ่น เพราะจะทำให้เลือกไม่ถูก

- ไม่ควรใช้น้ำหอมขวดเดียวเป็นเวลานาน เพราะอุณหภูมิภายนอกทำให้กลิ่นเปลี่ยนได้

กินยาอย่างเดียวไม่พอ

จึงควรรับประทาน ผักสีเขียว กล้วย และธัญพืชต่าง ๆ
         ดังนั้นเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารเหล่านี้อย่างพอเพียง และป้องกันปัญหาสุขภาพ
ที่อาจจะเกิดขึ้นนั่นเอง

วันอังคารที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

เทรนด์การออกกำลังกายแบบใหม่

Burning Core Performance Training

เทรนด์การออกกำลังแบบใหม่ ที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกาย
ด้วยหลักการง่าย ๆ 4 ข้อ คือ จิตใจ โภชนาการ การเคลื่อนไหว และการพัก
ซึ่งเป็นหลักสูตรเฉพาะของสถาบันสมรรถนะการกีฬา ประเทศสหรัฐอเมริกา
(Athletes Performance Institute) โดยใช้หลักการของ "ไดนามิกวอร์มอัพ"

โดยเริ่มจากการเริ่มฝึก

ขั้นที่ 4 คือ การผ่อนคลาย เป็นขั้นตอนสุดท้าย เช่นการนวด การนอนแช่ในอ่างน้ำร้อน


เรียกว่าเป็นการออกกำลังกายที่ได้ใช้กล้ามเนื้อทุกส่วน มีการเคลื่อนไหวหลายรูปแบบ
เหมาะกับผู้รักความแปลกใหม่และท้าทาย

ขอคุณบทความดีๆ จาก Woman Plus

วันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

นมเป็นสาเหตุทำให้เกิดสิว


ไม่น่าเชื่อ ว่านมจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวได้
เนื่องจากในน้ำนม มีฮอร์โมนแอนโดรเจน
ที่เกิดจากการเลี้ยงวัวด้วยฮอร์โมนเพื่อกระตุ้นการผลิตน้ำนมของวัว
ซึ่งถ้าหากร่างกายของคนเราได้รับฮอร์โมนตัวนี้มากเกินความจำเป็น
ต่อมไขมันก็จะผลิตน้ำมันออกมามากเกินความจำเป็น
จึงเป็นสาเหตุทำให้เป็นสิว