วันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2553

3 ธัญพืช จิ๋วแต่แจ๋ว เสริมสุขภาพต้านมะเร็ง

ความเล็กจิ๋วของธัญพืช ทั้ง 3 ชนิดนี้อาจเป็นสิ่งที่คนทั่วไป มองข้าม
ธัญพืชทั้ง 3 ชนิดนี้ได้แต่ ถั่วเหลือง งาดำ หรือลูกเดือย
ต่างก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ที่เต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการเป็นอย่างมาก
และยังมีส่วนช่วยในการยับยั้งโรคที่น่ากลัวที่สุด อย่างโรคมะเร็งได้อีกด้วย



มีผลการวิจัยล่าสุด รายงานว่า งาดำช่วยป้องกัน โรคเบาหวานได้
เพราะในงาดำมีวิตามินอีสูง และมีแคลเซียมสูงมากที่สุดในบรรดาธัญญาหารทุกชนิด
หรือแม้แต่นมวัว ซึ่งงาดำก็ชนะขาดด้วยปริมาณแคลเซียมที่สูงกว่านมวัวถึง 6 เท่า
เมล็ดงาดำอุดมไปด้วยโปรตีนที่มีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย
ซึ่งพบได้น้อยในนมถั่วเหลือง นอกจากนั้นก็ยังมีธาตุเหล็ก แมกนีเซียม สังกะสี
ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม ทองแดง วิตามีนบี รวมไปถึงกรดไขมันไม่อิ่มตัว
โอเมก้า และที่สำคัญมีสารต้านมะเร็ง


ประโยชน์ของงาดำ

เมื่อทานอาหารที่มีงาดำเป็นส่วนประกอบอย่างน้อย 1-2 ช้อนกาแฟทุกวัน
จะทำให้ห่างไกลโรคกระดูกพรุน เพราะแคลเซียมในงาดำจะช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง
และช่วยในระบบเลือดทำงานราบรื่น
ลดระดับคอเลสเตอรอล
แก้ปัญหาเรื่องเส้นผมและหนังศีรษะ รวมถึงผิวพรรณ
และช่วยในเรื่องระบบประสาท สายตา
ทำให้หลับสบายและกระปรี้กระเปร่า

ลูกเดือย
ข้อมูลการทดลองทางวิทยาศาสตร์ พบว่าสาร Coxenolide ในเมล็ดลูกเดือย
มีสรรพคุณยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอก และพบว่าสารสกัดด้วยน้ำ
หรือตัวทำละลายอินทรีย์จากรากหรือเมล็ดเดือย มีฤทธิ์ทำให้การหมุนเวียน
เลือดที่ผิวหนังดีขึ้น เส้นผมเจริญดีขึ้น สอดคล้องกับความเชื่อของคนจีน
ที่ว่ากินเมล็ดเดือยทำให้ผิวสวย

ลูกเดือยเป็นธัญพืชที่ชาวจีนยกให้เป็น " ยาอายุวัฒนะ " ขนานเอก
ในลูกเดือยมีสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพให้สมบูรณ์ สารเคมีบางอย่างในลูกเดือย
สามารถยับยั้งการเกิดเนื้องอก ลดการเกิดโรคมะเร็งได้

สารอาหารที่ประกอบในลูกเดือย
มีตั้งแต่โปรตีน มีกรดอะมิโนสูง คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และแร่ธาตุต่างๆ โดยเฉพาะฟอสฟอรัส
ที่ช่วยในการเสริมเกราะให้กระดูก รวมไปถึงวิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2


ประโยชน์ของลูกเดือย

ช่วยบำรุงอวัยวะภายใน ทั้งม้ามและกระเพาะอาหาร
บำรุงเลือด
บำรุงการทำงานของไต
ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของกระดูก
ช่วยบำรุงสายตา
แก้โรคเหน็บชา
รักษาอาการเนื้องอกอันนำไปสู่การเป็นมะเร็งได้

ถั่วเหลือง
คณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอเมริกา
อนุญาตให้ผลิตภัณฑ์ที่มีถั่วเหลืองเป็นส่วนประกอบ เขียนบนฉลากได้ว่า
"โปรตีนจากถั่วเหลืองสามารถลดโอกาสเสี่ยง ในการเกิดโรคหัวใจโคโรนารี
และช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้"
ในถั่วเหลือง 1 เมล็ด ประกอบไปด้วย โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต
เป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องการ โดยเฉพาะโปรตีน ซึ่งผลการวิจัยยืนยันแล้วว่า
การบริโภคโปรตีนจากถั่วเหลือง ร่างกายจะได้รับโปรตีน
เทียบเท่ากับการบริโภคเนื้อสัตว์ และความมหัศจรรย์ของถั่วเหลืองคือ
สารเคมีต่าง ๆ ในถั่วเหลือง ทั้ง lsooflavone Phytoestrogens
และ Bowman-Birk inhibitor ล้วนเป็นสารยับยั้งการเกิดมะเร็งทั้งสิ้น


ประโยชน์ของถั่วเหลือง

สามารถลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดอย่างได้ผล
ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด
ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก
ยับยั้งการเกิดมะเร็ง

เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว จึงควรมีธัญพืชทั้ง 3 ชนิดนี้ติดบ้านไว้รับประทานเป็นประจำ
เพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น