วันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

8 เทคนิคปราบฮอร์โมนความเครียด

8 เทคนิคปราบฮอร์โมนความเครียด


1.ทำสมาธิ
: ลดคอร์ติซอล 20%

ก่อนหน้านี้ในบ้านเราเคยมีการศึกษาโดยใช้เวลา 6 สัปดาห์
พบว่าผู้ที่ฝึกสมาธิตามวิถีพุทธ จะสามารถลด ทั้งความดันโลหิตและระดับคอร์ติซอลได้
ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาจาก Maharishi University ในสหรัฐฯ
ที่ผู้เข้าร่วมการศึกษาที่นั่งสมาธิทุกวันเป็นเวลา 4 เดือน
จะมีคอร์ติซอลลดลงโดยเฉลี่ย 20% แต่คนที่ไม่ได้นั่งสมาธิเลย
จะมีระดับคอร์ติซอลและความดันโลหิตสูงขึ้นเล็กน้อย


2.ฟังเพลง
: หยุดไม่ให้คอร์ติซอลเพิ่ม 66%

เสียงเพลงสามารถทำให้หัวใจ และสมองของเราผ่อนคลายได้จริง ๆ
สิ่งนี้ได้รับการพิสูจน์แล้ว เมื่อแพทย์ จาก Osaka Medical Center
ทดลองเปิดเพลงให้คนใช้ฟังในขณะที่กำลังส่องกล้องตรวจลำไส้
แล้ววัดระดับคอร์ติซอลเปรียบเทียบกับคนไข้ที่ส่องกล้องเช่นเดียวกัน
แต่อยู่ภายในห้องเงียบ ๆ ผลก็คือคนไข้ที่ฟังเพลง
มีระดับคอร์ติซอลพุ่งขึ้นน้อยกว่าคนไข้ในกลุ่มหลัง แต่นี่เป็นแค่ตัวอย่างเท่านั้น
คุณอาจนำวิธีนี้มาประยุกต์ใช้ในเวลาอื่น ๆ ที่ เครียดพอกัน
เช่น เมื่อพาแฟนมากินข้าวกับคุณพ่อคุณแม่เป็นครั้งแรก
หรืออาจจะเปิดเพลงกล่อมเบา ๆ ก่อนนอน แทนการดูโทรทัศน์
ก็จะช่วยให้หลับฝันหวานได้เช่นกัน


3.นอนแต่หัวค่ำ
: ลดคอร์ติซอล 50%

ทราบมั้ยว่า ความแตกต่างระหว่างการนอนหลับ 6 ชั่วโมง และ 8 ชั่วโมงคืออะไร?
คำตอบก็คือความต่าง เพียง 2 ชั่วโมง จะทำให้กระแสเลือดของเราเต็มไปด้วยคอร์ติซอลมากกว่า
ถึง 50% ซึ่งการศึกษาจาก Germany’s Institute for Aerospace Medicine เปิดเผยว่า
เมื่อนักบินนอนหลับ 6 ชั่วโมง (หรือน้อยกว่า) ติดต่อกัน 7 คืน นัก บินกลุ่มนี้จะมีระดับคอร์ติซอล
พุ่งสูงขึ้นมาก และจะเป็นเช่นนั้นถึง 2 วัน การนอนหลับพักผ่อนวันละ 8 ชั่วโมง
จะทำให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเองจากความเครียด แต่ถ้าคุณนอนไม่พอ
วันต่อมาลองหาเวลางีบในช่วงกลางวัน จะช่วยลดคอร์ติซอลที่สะสมจากการอดนอนได้


4.จิบชาดำ
: ลดคอร์ติซอล 47%

ชาดำเป็นเครื่องดื่มที่ทำให้คุณเบิกบาน และมีความเกี่ยวข้องลึกซึ้งกับความผ่อนคลาย สบายใจ
ซึ่งสามารถ ยืนยันได้ทางวิทยาศาสตร์ เมื่ออาสาสมัครจาก University College London
ต้องทำกิจกรรมที่เพิ่มความเครียดภาย ในหนึ่งชั่วโมงที่ทำงานเสร็จ
คนที่ดื่มชาดำจะมีระดับคอร์ติซอลลดลงถึง 47% ส่วนคนที่ดื่มชาหลอกจะลดลงเพียง 27% เท่านั้น
ซึ่งผู้เชี่ยวชาญคิดว่า สาเหตุที่ชาเป็นเครื่องดื่มเพื่อกล่อมเกลาจิตใจ
น่าจะเป็นเพราะสารเคมีตามธรรม อย่างโพลีเฟอนอลและฟลาวานอยด์


5.แฮงเอาต์กับเพื่อนสาวสุดฮา
: ลดคอร์ติซอล 39%

เพื่อนสาวที่ช่วยให้เราหัวเราะได้ อาจช่วยได้มากกว่าหันเหความสนใจของเราออกจากปัญหาทั้งปวง
นักวิจัย จากมหาวิทยาลัยโลมาลินดาบอกว่า เพียงแค่ได้หัวเราะก็ทำให้ระดับคอร์ติซอลลดลง
เกือบครึ่งแล้ว หรืออาจดูหนัง ตลก ก็ทำให้คุณคลายเครียดเช่นกัน


6.นวดเฟ้นคลายเครียด
: ลดคอร์ติซอล 31%

นาน ๆ ครั้ง ลองให้ของขวัญตนเองเป็นการนวดบ้างก็ดี เพราะการนวดสามารถขับไล่ความเครียดได้
โดย การศึกษาจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยไมอามีชี้ว่า การนวดบำบัดเพียงไม่กี่สัปดาห์
สามารถลดระดับคอร์ติ ซอลโดยเฉลี่ยได้ถึง 1 ใน 3 การนวดยังช่วยกระตุ้นสารโตพามีน
และเซโรโทนิน ซึ่งสารทั้งสองชิดคือฮอร์โมนแห่ง ความสุขที่หลั่งออกมา
เมื่อเราอยู่กับเพื่อนฝูงหรือทำเรื่องสนุก ๆ


7.หันหน้าเข้าหาศาสนา
: ลดคอร์ติซอล 25%

กิจกรรมทางศาสนานั้น ทำให้คนมีพลังที่จะสู้กับความกดดันในชีวิตประจำวัน
และยังสามารถลดการผลิต คอร์ติซอลได้อีกด้วย นอกจากนี้
การศึกษาจากมหาวิทยาลัยมิสซิสซิปปียังชี้ว่า คนที่เข้าวัดบ่อย ๆ มักจะมีระดับ
ความเครียดต่ำกว่าคนที่ไม่เข้าวัดเลย แต่ถ้าคุณคิดว่าตัวเองไม่เหมาะกับกิจกรรมด้านศาสนา
ก็ลองฟื้นฟูจิต วิญญาณด้วยการไปเป็นอาสาสมัครดูก็ได้


8.เคี้ยวหมากฝรั่ง
: ลดคอร์ติซอล 12-16%

ครั้งต่อไปที่รู้สึกเครียดจัด ลองหยิบหมากฝรั่งมาเคี้ยวเพื่อระบายความเครียดดูนะ
สำหรับคนที่มีความ เครียดระดับปานกลาง การเคี้ยวหมากฝรั่งจะช่วยให้ระดับคอร์ติซอล
ในน้ำลายลดลงถึง 12% และยังกระปรี้ กระเปร่ามากกว่าคนที่ไม่เคี้ยวหมากฝรั่งเลย
นี่อาจเป็นเพราะการเคี้ยวหมากฝรั่ง จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด
และการทำงานของระบบประสาทในสมองบางส่วนก็ได้


ข้อดีของความเครียด


ใช่ว่าคอร์ติซอลจะไม่ดีเสมอไป ในบางสถานการณ์ คอร์ติซอลอาจจะ...

1.เพิ่มความต้องการทางเพศ

การศึกษาจากมหาวิทยาลัยเคลิฟอร์เนียที่เมืองเบิร์กลีย์
ทดลองให้หญิงสาวสูดกลิ่นเหงื่อของผู้ชายจากใน ขวด ผลก็คืออารมณ์ดีขึ้น
ฟีโรโมนสูงขึ้น พร้อมกับระดับคอร์ติซอลและความต้องการทางเพศ


2.ลดปวด

นักวิจัยคาดว่า คอร์ติซอลอาจจะกระตุ้นระบบผลิตฮอร์โมนบางอย่างให้ทำงานมากขึ้น
จึงทดลองให้สาร คอร์ติซอลเป็นพิเศษ สำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะอ่อนเพลียเรื้อรัง
หรือมีอาการปวดกล้ามเนื้อ และเนื้อเยื่อพังผืด ปรากฏ ว่าผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น ถึงร้อยละ 75


3.ทำให้ความจำดี

การศึกษาจากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน ในเมืองเมดิสันพบว่า เมื่อกลุ่มตัวอย่างชาย 90 คน 
มีคอร์ติซอลในระดับปานกลางแล้ว จะทำข้อสอบวัดความจำได้ดีขึ้น
แต่ถ้ามีมากเกินไปผลก็จะตรงกันข้าม นั่นคือความจำแย่ ลงนั่นเอง





ที่มา ... Lisa

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น