วันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556

วิธีปลูกต้นไม้แบบคนขี้เกียจ


วิธีปลูกต้นไม้แบบคนขี้เกียจ
ได้เข้าไปอ่านบทความที่ลานสวนป่า โดย คุณสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์
ได้เขียนเรื่องงานที่เหมาะกับคนขี้เกียจ
รู้สึกว่าได้แง่คิดดีๆ จึงได้นำมาเก็บไว้

ขออนุญาต บันทึกไว้เพื่อเป็นแนวทางเพื่อให้เกิดจินตนาการหรือไอเดีย
ในการต่อยอดของคนขี้เกียจด้วยค่ะ

อย่างที่ท่านสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์ ได้เขียนไว้ที่ลานสวนป่านั้น ถูกใจ
ในแง่ที่ว่า คนขี้เกียจมักจะมองหางานเบาๆ ง่าย ๆ
ที่ไม่ต้องใช้ความขยันมากมากหรือจำเจอะไร
การมองหางานที่เหมาะกับตนเอง
ได้พบได้เห็นสิ่งที่น่าจะนำมาบอกคุณชะลอหลังยาว
บัดนี้มีงานที่เหมาะกับท่านแล้ว
เป็นงานที่ทำอะไรเล็ก ๆ น้อยแต่ส่งผลได้ในระยะยาว

อันแรกนั้น คือ
ปลูกต้นไม้บนตอต้นตาล
เอาต้นตาลมาตัดเป็นท่อน ๆ แล้วเจาะเนื้อไม้ตรงกลางให้มีขนาดพอดีกับกระถาง
แล้วเอาดินเอาปุ๋ยใส่ แล้วปลูกต้นไม้ที่ชอบลงไป
ถ้าตอใหญ่ก็ปลูกไม้ยืนต้น
ถ้าตอเล็กปลูกไม้ประดับหรือไม้พุ่มเล็กที่ต้องการ
รดน้ำเดือนละ  2 ครั้งเท่านั้น
จะประหยัดน้ำ ประหยัดเวลา
เหมาะกับคนขี้เกียจจริง ๆ นะ
ที่เป็นเช่นนี้เพราะเนื้อไม้ภายในท่อนตาลจะอมน้ำไว้
ทำให้มีความชื้นเพียงพอต่อความต้องการของต้นพืช
เนื่องจากการระบายน้ำได้ช้า
จึงงดรดน้ำบ่อย ๆ ไม่อย่างนั้นพืชจะรากเน่าและเฉาตายในที่สุด
เนื้อไม้ตาลมีอาหารที่สมบูรณ์อย่างน่าทึ่ง
ดังจะสังเกตเห็นได้จากที่มีเห็ดเกิดขึ้นบ่อย ๆ เมื่ออุณหภูมิเหมาะสม
การปลูกต้นไม้ในตอตาลต้องการรดน้ำน้อยมาก ดังนี้

ปีหนึ่งรดน้ำเดือนละ 2 ครั้ง = 24 ครั้ง

หักช่วงฤดูฝนออก 4 เดือน = 8 ครั้ง

เหลือที่ต้องรดน้ำ 8 เดือน = 16 ครั้ง/ปี

: อัตรานี้เท่ากับการใช้โพลิเมอร์

เนื้อไม้ตาลดีกว่าตรงที่ไม่ต้องซื้อสารเก็บความชื้นอื่น มีสารอาหารโดยธรรมชาติ

วิธีที่ 2 เลี้ยงผึ้งโพรงพันธุ์ไทย

ปกติเราเลี้ยงสัตว์ไม่ว่าจะเป็นหมู หมา แมว หรือช้างม้าวัวควาย
จะต้องมีการบริหารจัดการ เช่น สร้างโรงเรือน ระบบน้ำ รางอาหาร เลี้ยงอาหาร ดูแลทุกขั้นตอนฯลฯ
แต่ถ้าเลี้ยงผึ้งโพรงพันธุ์ไทย เราเพียงหาโพรงไม้มาปิดหัวท้าย เจาะรูเล็กๆให้พอดีกับตัวผึ้งบินเข้าออก
เอาขี้ผึ้งแท้ใส่ข้างในเพื่อให้มีกลิ่นผึ้ง เอาขอนไม้ที่ว่านี้แขวนไว้ตามต้นไม้ ผึ้งป่าก็จะมาอาศัยอยู่เอง
เราไม่ต้องให้น้ำ ให้อาหาร ถ้าต้องการน้ำผึ้งเพียงเอามาแกะฝากล่องเอาน้ำผึ้งมาบริโภค
หรือถ้าจะทำให้ดูดี ตีกล่อง 4 เหลี่ยมแบบที่เขาเลี้ยงผึ้งพันธุ์ทั่วไป ..
เช้า ๆ ผึ้งจะบินไปหาน้ำหวาน ซึ่งเป็นการช่วยผสมเกสรให้ผลไม้เรา งานนี้จึงเหมาะกับคนขี้เกียจจะพิจารณา


3 เลี้ยงไก่ต๊อก

ไก่ต๊อกเป็นสัตว์ปีกประเภทไก่ฟ้า จึงมีสัญชาตญาณป่าอยู่มาก
กลางคืนจะบินไปเกาะคอนนอนบนต้นไม้
เช้า ๆ ก็โผลงบินไปคุ้ยเขี่ยหาอาหารกินเอง เราเลี้ยงแบบบุฟเฟ่ต์ได้สบายมาก
ช่วงออกไข่ก็จะไปรวมกันหยอดไข่ที่เดียวกองโตเชียวแหละ
คนขี้เกียจไม่ต้องเดินไปหลายที่ เจอรังไข่ที่เดียวก็จบ
การเลี้ยงไก่ต๊อกจะเสียเวลานิดหน่อย ตอนไปเก็บไข่ไก่ต๊อกไปให้แม่ไก่บ้านฟัก
แม่ไก่บ้านก็จะฟูมฟักดูแลลูกไก่ต๊อกให้เรา คนขี้เกียจก็สบาย ๆ ไม่ต้องยุ่งยาก
แต่ถ้าต้องการขยายพันธุ์จำนวนมาก ต้องอาศัยเครื่องฟักช่วย

4 ปลูกพืชผักล้มลุก

พืชที่ขยายพันธุ์ได้ง่าย เช่น ชะพลู ดีปลี โสมไทย
ผักโขมจีน ตำลึง กะวานฮ๊อก อ่อมแซบหรือ (เบ็ญจขันธ์)
พืชกลุ่มนี้ขยายพันธุ์ได้ง่ายมาก เอามาปลูกที่รำไร
เด็ดต้นปักยามหน้าฝนหรือเอาเมล็ดมาโปรย
อีกหน่อยก็ออกดอกติดเมล็ด กระเด็นไปตกที่ไหนก็ขยายพันธุ์แพร่หลาย
ยอดอ่อนเด็ดมาใช้เป็นสมุนไพร หรือเด็ดมาผัดกระทะร้อนอร่อยที่สุด
ไม่ต้องให้น้ำ ไม่ต้องให้ปุ๋ย ไม่ต้องฉีดยาฆ่าแมลง เราก็มีผักสำรองไว้ตลอดปี
ข้อดีอีกอย่างอยู่ตรงที่เป็นพืชคลุมดิน
แทนที่จะให้วัชพืชขึ้นกลับได้ประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม
ปลูกครั้งเดียว ในฤดูกาลถัดไปก็จะแพร่ลูกแพร่หลานเอง


5 ปลูกผักสวนครัว

มะกรูด มะนาว มะพร้าว ส้มโอ ไชโยโห่ฮิ้ว..
กลุ่มผักไม้ผักยืนต้นบ้านเรามีนับร้อยชนิด ปลูกไว้ใส่ต้มแกง ให้ร่มเงา ให้ความสดชื่น
ให้้ความสดชื่น พึ่งพาตนเองได้ ควรหาพันธุ์มาจิ้ม ๆ ลงดินครั้งเดียวจบ
ต่อไปสมุนไพรไทยคุณสมบัติคับหม้อเหล่านี้ ก็จะเจริญเติบโตขยายพันธุ์ไปเรื่อย ๆ
ถ้าปลูกใกล้ ๆ กันก็ยังสะดวกในการเก็บมาลงหม้ออีกด้วย

ขอขอบคุณเจ้าของบทความด้วยค่ะ

จากแนวคิดที่อ่านมาคิดว่า การที่คนเราจะทำอะไร ก็ตาม ก็มีความยากลำบากอยู่ด้วยเสมอ
แต่การที่เราจะลงมือทำงานนั้น ๆ ก็ความศึกษาให้ดี ว่า ในเรื่องของการรู้จักตนเอง
ให้ดีและศึกษาในเรื่องที่เราต้องการทำว่า นิสัยอย่างเรานี้จะทำอะไร ก็เลือกให้เหมาะสม
คิดให้เป็น มองให้ออก แล้วงานการที่ทำนั้น ถึงแม้จะทำอย่างคนขี้เกียจ ก็จะสำเร็จได้
ถ้าทำถูกวิธี หรือเหมาะสมกับสภาพความเป็นตัวตนของเรา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น